IP Camera แบ่งตามประเภทการใช้งานได้ ดังนี้ |
1. Fixed Camera : บางคนก็เรียกว่า กล้องวงจรปิดแบบกระบอกข้อดีที่เห็นได้ชัดๆ คือ ตัวกล้องวงจรปิดจะแยกส่วนกับเลนส์ |
สามารถทำให้เลือกซื้อเลนส์ใส่ได้ มาในส่วนของเลนส์ที่เอาไว้ใส่กับกล้องวงจรปิดปิดชนิดนี้จะมีให้เลือกเยอะพอสมควร |
ขึ้นอยู่กับจุดที่จะติดตั้งและต้องการโฟกัสภาพไปที่ไหน |
เลนส์ของกล้องวงจรปิดชนิดนี้ หลักๆ จะมีอยู่ 2 แบบ นั่นก็คือ |
1.1 Fix Lens : Fix Lens ของกล้องวงจรปิดส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดให้เลือกที่ 3.6 mm,4mm ,6mm ก็ตามลักษณะการใช้งาน |
2.2 Auto Iris : เลนส์ชนิดนี้นั้นจะมีราคาแพงกว่า fix lens ค่อนข้างมากทีเดียวครับเพราะความสามารถของมันนั่นเอง |
มันสามารถที่จะปรับภาพเพื่อให้ภาพชัดสวยงามได้อยู่ตลอด คือมันจะปรับแสงให้ตามสถานการณ์ |
|
2. Infared Camera : กล้องวงจรปิดแบบอินฟาเรด Infrared Camera คุณสมบัติที่เด่นชัดที่สุดใน การเป็นกล้องอิฟาเรดก็คือ |
การที่สามารถจับภาพในที่มืดได้ คิดว่าหลายๆ คนก็คงจะรู้ในจุดนี้กันมาแล้วไม่มากก็น้อย แล้วอะไรบ้างหละที่เป็นปัจจัยที่ |
ทำให้ตัวกล้องวงจรปิดแบบอินฟาเรดสามารถมองเห็นในที่มืดๆ หรือที่มีแสงน้อยๆ ได้ จะมีอยู่ 2 อย่างทีเป็นตัวเปรียบเทียบว่า |
สามารถมองเห็นในที่มืดได้ในระดับไหน นั่นก็คือ ค่า Lux ของ( illuminance หรือ illumination ) ของแสง |
ส่วนอีกอันจะเป็นเรื่องของ LED คือ จำนวนของมันมากน้อยแค่ใหนยิ่งมากก็สามารถทำให้ระยะทางดูภาพได้ไกลขึ้น |
ปกติแล้วกล้องอินฟาเรดจะมีค่า Lux เท่ากับ 0 แต่มันก็จะมีระยะของมันในกล้องวงจรปิดแต่ละตัวว่าสามารถมองเห็นไปได้ |
ไกลแค่ไหน คือสำคัญที่ว่าค่าLux ยิ่งน้อยยิ่งมองเห็นได้เป็นขาวดำครับในที่ยิ่งมืดๆนั่นก็คือจำนวน LEDs ยิ่งมีจำนวนมากก็จะ |
ยิ่งดี มันเป็นตัวเสริมในหลายๆอย่างของความสามารถที่มองเห็นในที่ ที่มีแสงน้อยๆ ได้ กล้องวงจรปิด CCTV Infrared เป็นกล้อง |
วงจรปิดที่ใช้แสงจากหลอด IR ส่องกระทบวัตถุจะทำงานเมื่อแสงน้อยในระดับหนึ่ง โดยจะมี censor ที่ด้านหน้าของกล้อง |
แล้วจะส่งสัญญาณให้ หลอด IR ทำงาน และเมื่อแสงน้อยภาพจะเปลี่ยนเป็นขาว-ดำ สามารถมองเห็นในที่มืดสนิทได้เลย |
เพราะจะใช้แสง IR ส่องไปที่วัตถุ แต่ไม่เหมาะติดตั้งเพื่อการตรวจสอบทะเบียนรถ ผลจากการสะท้อนภาพจะทำให้ภาพ |
สว่างจ้าจนมองไม่เห็น เลขทะเบียนเลย |
|
3. Dome Camera : กล้องวงจรปิดแบบโดม(Dome camera) เป็นกล้องที่มีรูปทรงลักษณะ ที่เป็นแบบครึ่งวงกลมโดยวัสดุ |
ที่ใช้ทำ ก็มีแบบทั้งพลาสติก หรือ อลูมิเนียมผสมเหล็กหล่อขึ้นรูป |
การนำกล้องโดมไปใช้งาน |
1. กล้องโดมเหมาะสำหรับภายใน office เป็นอย่างยิ่งหรือภายงานในสามารถปรับมุมกล้องได้รอบทิศทาง(ด้วยมือ) |
2. กล้องโดมเหมาะที่จะติดบนเพดานที่เป็นฝ้า ติดตั้งโดยไม่ต้องใช้ขายึด มีชุดฝาครอบเพื่อป้องกันการฝุ่นละออง |
3. พอติดตั้งแล้ว หน้างานดูสวยกว่า เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ภายในร่ม ไม่โดนแดด โดนน้ำ |
กล้องโดมชนิดอินฟาเรด |
เป็นกล้องโดม ชนิด อินฟาเรด เหมาะสำหรับติดตั้งภายในร่มเงาเหมือนเดิม กรณีที่ลูกค้าต้องการดูภาพในที่มืดสนิทเวลา |
กลางคืนมีให้เลือกใช้ทั้งชิฟชาร์ป และ โซนี่ วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นเหล็กผสมอลูมิเนียมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง หรือพลาสติกเบาๆ |
และดูดี สวยงาม ซึ่งผลิตภัณฑ์หล่านี้จะไม่มีปัญหาเรื่องภาพสะท้อนหรือฝ้าแน่นอนเพราะการออกแบบนั้นจะตัดปัญหาโดย |
การแยกชุดเลนท์กับชุด LED ออกจากกันเลย |
|
4. Pan-Tilt และ Pan-Tilt-Zoom Camera : กล้องวงจรปิด แบบสปีดโดม หรือมีตัวย่อว่า |
P =PAN (หมุน ส่าย) , T=TILT (ก้ม เงย) , Z=ZOOM (ซูม) โดยลักษณะข้อดีกว่ากล้องทั่วไป คือ |
สามารถหมุนได้ ก้ม เงยได้ ซูมได้ด้วยเลนท์ด้วยระยะทางที่ไกลกว่าถึง มากสุด 400-500M สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบ |
ภายในและภายนอกอาคารโดยปัจจุบันสามารถเลือกการควบคุมด้วยเครื่องบันทึก หรือ จอยควบคุมก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์ |
หรือการใช้งาน และสามารถกำหนดการตั้ง Preset ได้มากกว่า 100 จุด และสั่งหมุนหรือวิ่งไปตามจุดนั้นๆได้เองแบบอัติโนมัติ |
ลักษณะการใช้งาน |
ลักษณะเด่นกล้องชนิดPTZ คือ เป็นกล้องที่มีคุณสมบัติการใช้งานสูง สามารถหมุนส่าย ได้ 360 องศา ก้ม เงย ได้ |
มากกว่า 90 องศา ซูมภาพได้ระยะทางไกลมากกว่า 200-400 เมตร ออกแบบมาเพื่อสามารถติดตั้งได้ทั้งภาย นอกและภายใน |
การควบคุมสามารถควบคุมกล้องโดยใช้ชุดควบคุมหรือจอยคอนโทรล หรือควบคุมผ่านเครื่องบันทึกได้โดยตรง แล้วแต่ผู้ใช้สะดวก |
การติดตั้งควรติดตั้งลักษณะที่เหมาะสำหรับ ห้อง อาทิเช่น สนาม แนวถนน แนวกำแพง ภายในโรงงาน โรงรถ ลานจอดรถ
|
สี่แยก หรือหน่วยงานที่ต้องการมองในระยะทางไกลๆ ฯลฯ กล้องชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง |
|
การติดตั้ง IP Camera |
สำหรับการติดตั้งกล้อง IP เรียกได้ว่า ง่ายมาก เพียงแค่ที่บ้าน หรือที่ต้องการติดตั้งกล้อง IP มีระบบเครือข่าย อยู่แล้วก็สามารถ |
ต่อสาย Lan เข้าที่ ตัว IP Cam แล้วเสียบสายไฟ ก็สามารถใช้งานกล้องได้แล้ว ด้วยการเข้าไปตั้งค่าต่างๆในตัวกล้องด้วย IP Address |
ของตัวกล้องเอง **กล้อง ip ตัวใหม่ๆจะมีเทคโนโลยี POE (Power over Ethernet) ติดมาด้วยคือสามารถจ่ายไฟให้ตามสาย LAN ได้ |
ทำให้ประหยัดค่าเดินสายไฟ หรือ สะดวกต่อการสำลองไฟ และหากเราจะใช้ function นี้ switch ของเราก็จำเป็นต้องมีฟังก์ชันนี้ |
ด้วยเช่นกัน **** |
|
การบันทึก |
การบันทึกของกล้อง IP จะมีด้วยกัน3อย่างหลักๆคือ |
1. บันทึกลง storage card ที่อยู่บนตัวกล้อง IP |
2. ใช้ Software บันทึกลง Computer |
3. ใช้ NVR (Network Vedio Record) บันทึกลง Harddisk |
จุดเด่น |
1. กล้อง IP แต่ละตัว มีราคาที่ค่อนข้างสูง |
2. การติดตั้งง่าย ใช้สายน้อย ยึดหยุ่นในการติดตั้ง |
3. สามารถดูภาพได้โดยไม่ต้องใช้ DVR สามารถดูผ่านคอมพิวเตอร์โดยตรงได้ |
4. ถ้าติดตั้งกล้อง IP เป็นจำนวณมาก อาจจะต้องออกแบบระบบ Network เป็นอย่างดี แล้วอุปกรณ์ Network ก็ต้องดีตามไปด้วย |
|
ความเหมาะสมในการใช้งานกล้องอินฟาเรด |
ลักษณะเด่นกล้องชนิดอินฟาเรด คือ เป็นกล้องที่มีเม็ด LED ในตัวทำหน้าที่เปล่งแสง นำทางเพื่อเพิ่มแสงในระยะทาง |
มองของกล้อง โดยแสงอินฟาเรดจะพุ่งไปในระยะที่ถูกกำหนดจากนั้นแสงจะตกกระทบวัตถุแล้วเกิดการสะท้อนกลับมายัง |
หน้ากล้อง เนื่องจากเม็ดLED เป็นสีแดงผลภาพที่ได้จึงเป็นสีขาวดำ แต่ในสภาวะที่แสงเพียงพอกล้องจะมีภาพออกเป็น |
สีธรรมชาติปรกติ จึงเป็นเหตุให้กล้องชนิดนี้สามารถมองได้ทั้งกลางวัน และกลางคืนในสถานที่มืดสนิทได้ สามารถติดตั้งได้ |
ทั้งภายนอกและภายในอาคาร โดยไม่จำเป็นต้องใส่ชุดป้องน้ำ ฝุ่นเพิ่มเติม หรือที่เรียกกันว่า Housing ชุดอินฟาเรดสามารถ |
มองได้ตั้งแต่ระยะ 10,15,20,25,30,35,40,50 เมตร มีให้เลือกใช้ทั้งระบบแสงกระจาย และแสงยิงไกล หากติดตั้งนอก |
อาคาร มีรุ่นที่มีพัดลมภายในเพื่อ การระบายความร้อนได้ มีรุ่นที่สามารถปรับเลนท์ได้ ความละเอียดภาพสูงๆ |
และใช้ระบบไฟฟ้าแบบ 12V กระแสตรง หรือ เป็นแบบไฟ 220V กระแสสลับ ก็มี การติดตั้งควรติดตั้งลักษณะที่เหมาะสำหรับ ในจุดที่ทึบแสง ไม่มีแสง หรือแสงเข้าไม่ถึง หรือมุมภาพที่แสงน้อยในบางเวลา ทั้งภายนอกหรือภายในก็ได้ อาทิเช่น |
สนาม แนวถนน แนวกำแพงภายในโรงงาน โรงรถ ลานจอดรถ ประตูเข้า ออกโรงงาน ตามชั้นหอพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโด |
หรือบ้านเรือน ที่พักอาศัย บริษัท ห้างร้านที่ต้องการมองในที่มืดสนิทเพื่อการตรวจสอบหรือจับภาพ ฯลฯ |
กล้องวงจรปิด CCTV Infrared |
- กล้องวงจรปิด CCTV Infrared เป็นกล้องวงจรปิดที่ใช้แสงจากหลอด IR ส่องกระทบวัตถุจะทำงานเมื่อแสงน้อยในระดับหนึ่ง |
โดยจะมี censor ที่ด้านหน้าของกล้องแล้วจะส่งสัญญาณให้หลอด IR ทำงาน และเมื่อแสงน้อยภาพจะเปลี่ยนเป็นขาว-ดำ |
- ข้อดี สามารถมองเห็นในที่มืดสนิทได้เลย เพราะจะใช้แสง IR ส่องไปที่วัตถุ |
การเลือกใช้งาน |
การเลือกใช้งานควรเลือกตามความเหมาะสมกับสถานที่ติดตั้งเช่น ถ้าสถานที่ติดตั้งไม่มีแสงสว่างเลยหรือมืดสนิท |
และระยะไม่ไกลมากแนะนำให้ใช้กล้อง Infrared ส่วนสถานที่ติดตั้งที่มีแสงสว่างบ้างต้องการคุณภาพของภาพสูงและมีงบ |
ประมาณก็ควรใช้กล้องที่เป็น Day & Night |
Day/Night VS. Infrared |
กล้องวงจรปิด CCTV Day & Night คือ กล้องวงจรปิด CCTV ที่สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ต้องการแสง |
เล็กน้อยเพื่อให้กล้องวงจรปิด CCTV สามารถจับภาพได้และเมื่อกล้องวงจรปิด CCTV ได้รับแสงน้อยมากๆ ก็จะเปลี่ยนภาพ |
เป็นโหมด ขาว-ดำ ข้อดีคือกล้องวงจรปิด CCTV Day & night ไม่ได้จำกัดเรื่องของระยะทางที่ตัวกล้องเพิ่มมากขึ้น |
ข้อเสียคือ ใช้ในที่มืดสนิทไม่ได้ ต้องการแสงเพียงเล็กน้อยเพื่อให้กล้องสามารถทำงาน |